ส่องเมืองหลวง “ดูชานเบ” 
มีอะไรน่าสนใจมากมายกว่าที่คิดเยอะ

คนท้องถิ่นเล่าให้ฟังว่า “ดูชานเบ” (Dushanbe) เป็นภาษาเปอร์เซีย แปลว่า “วันจันทร์” เพราะคำว่า Du คือ สอง ส่วน Shanbe เรียกเพี้ยนมาจาก Shambe ภาษาเปอร์เซีย แปลว่า วันเสาร์ แปลโดยรวม คือ วันที่สองหลังจากวันเสาร์ ก็คือ วันจันทร์ นั่นเอง อย่า งง นะคะ สรุปว่าที่เรียกเมืองหลวงแสนสวยแห่งนี้ว่า วันจันทร์ เพราะในอดีต เป็นที่ตั้งของตลาดที่เปิดในวันจันทร์ 

ดูชานเบ เป็นเมืองหลวงที่นับว่าสวยทีเดียว ถนนหนทางเกือบทุกสาย เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่งถนน ผังเมืองถูกวางเป็นบล็อกๆ สวยงาม ดูเขียวขจี โดยเฉพาะในต้นฤดูร้อนแบบนี้ เมืองดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงมากมาย ฤดูกาลที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่อาศัยอยู่ ย่อมเป็นฤดูที่ภูมิอากาศ อำนวยให้ออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งได้เกือบตลอดวัน อย่างเช่นในเดือนมิถุนายนนี้

เราจึงเริ่มต้นสำรวจเมือง จากสถานที่ที่มีความสำคัญที่สุดของเมือง ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของดูชานเบเลยก็ว่าได้ 
ที่นี่….ไม่ว่ามองไปทางไหน อาคารแต่ละหลังก็ดูใหญ่โตมหึมา ตามรูปแบบของการก่อสร้างอาคารในยุคโซเวียต ภาพสถาปัตยกรรมโดยรวม ทำให้เมืองนี้ ดูแล้วน่าเกรงขาม แต่สิ่งหนึ่งที่เพิ่มความอ่อนหวานให้กับเมือง คือแปลงดอกไม้ นานาพันธุ์ ชูช่ออวดสีสันกัน โดยเฉพาะดอกกุหลาบดอกโตๆหลากสี ที่ปลูกมากมายตามพื้นที่ในสวนสาธารณะและตามริมฟุตบาท และตามถนนหนทางสายต่างๆ อีกทั้งเมืองโดยรวมดูสะอาดสะอ้าน แทบไม่เห็นขยะ ตามบริเวณถนนข้างทางเลย คูร่องระบายน้ำตามถนน ก็เป็นน้ำใส แทนที่น้ำขุ่นทิ้งสกปรกตามเมืองใหญ่ที่เห็นโดยทั่วไป

วันนี้เราออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศของเมืองหลวงดูชานเบ ในช่วงแดดร่มลมตก เมืองที่ตั้งอยู่บนความสูงเฉลี่ยกว่า 800-900 เมตร เช่นนี้ ยามอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า อากาศช่วงต้นฤดูร้อนแบบนี้ จะค่อนข้างสบายๆ ชาวเมืองพากันออกมานั่งจับกลุ่มย่อยๆ คงเป็นเพื่อนฝูง และครอบครัว เดินผ่านแล้วได้ยินเสียงคุย เสียงหัวเราะ เห็นแล้วอบอุ่นหัวใจแทน

บริเวณย่านนี้ จัดได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของเมือง โดยมีอนุสาวรีย์รูปปั้น ของ กษัตริย์อิสมาอิล โซมานี (Ismail Somani) ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้มีพระปรีชาสามารถในการรวบรวมอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นรุ่งเรือง ในช่วงสมัยราชวงศ์ซามานิด ราวศตวรรษ ที่ 9-10 
โดยรอบของอนุสาวรีย์เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น Palace of Nation อาคารของรัฐบาล ที่ใช้รับรองแขกบ้านแขกเมืองสำคัญๆ ซึ่งด้านหน้าจะมี Flag Pole เสาธงชาติทาจิกีสถาน สูงตระหง่านถึง 165 เมตร ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสูงที่สุดในโลก ครองสถิติกว่า 3 ปี (2011-2014) ถ้าไม่มีเสาธงของชาติซาอุดีอาระเบีย อันที่สร้างขึ้นใหม่มาลบสถิติ ที่เมืองเจดดาห์ ที่สูง 171 เมตร

ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์โซมานี เป็นที่ตั้งของรัฐสภา อาคารสีแดงโดดเด่น และบริเวณใกล้เคียง ยังมี หอสมุดแห่งชาติ อาคารรูปเก๋ๆ เป็นรูปหนังสือที่ถูกกางเปิดออก ที่นี่ ว่ากันว่ามีหนังสือถึง 10 ล้านเล่ม นับว่าส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่านกันจริงๆจังๆ

เดินต่อไปอีกนิด เลียบผ่านแนวน้ำพุสวยงามยาวตลอดทาง จะพบอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ ที่มีสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศประดับอยู่ และห่างออกไปไม่ไกลกันนัก จะมีสวนสาธารณะ ที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติให้แก่กวีเอกชาวเปอร์เชีย Rudaki Park สวนสวยน่าเดินเล่น นั่งเล่น เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และดอกไม้นานาพันธุ์ วันนี้อากาศดี มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงนักศึกษามหาวิทยาลัย มาขับร้องเพลงไพเราะ แถมผู้ฟังออกมาร่วมเต้นรำสนุกสนานไปตามจังหวะของเพลงอีก บรรยากาศแบบนี้ ได้มาอยู่ตรงนี้ ถือว่าเป็นโบนัสพิเศษของชีวิตเลยทีเดียว 

เมืองหลวงดูชานเบ ที่เราเห็น ที่เราได้มาสัมผัสวันนี้ ทำให้รู้ว่า เมืองสวย น่าอยู่ ต้องมีองค์ประกอบหลัก คือ ความมีชีวิตชีวาของชาวเมือง ซึ่งสะท้อนถึงความสุขที่มองเห็นได้ จับต้องได้ และมีอยู่จริง 
แอบหลงรัก “ดูชานเบ” แล้วหล่ะ

Top